ความเป็นมาของหนังสือสามก๊ก
สามก๊กภาษาจีนเรียกว่า "ซานกั๋วจี๋
" เเปลว่าจดหมายเหตุเรื่องสามก๊กเขียนขึ้นโดยเฉินโซ่นักปราชญ์ ชาวจีนซึ่งอาศัยอยู่ในอาณาจักรเเห่งราชวงศ์จิ้นเเต่สามก๊กที่พวกเรารู้จักกันอยู่ขณะนี้เป็นฉบับที่หลอกว้านจงนำมาเรียบเรียงใหม่แปลและเรียบเรียงเป็นภาษาไทยครั้งแรก
โดยเจ้าพระยาพระคลัง(หน)ในสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเมื่อปี
พ.ศ. 2345 ในรูปแบบสมุดไทย ตีพิมพ์ครั้งแรกโดยโรงพิมพ์ของหมอบรัดเลย์ในปีพ.ศ. 2408และได้รับการตีพิมพ์ซ้ำอีกครั้งภายใต้ ชื่อ "หนังสือสามก๊กฉบับราชบัณฑิตยสภา" โดยโรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากรในปี
พ.ศ. 2471ปัจจุบันสามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน)ได้รับการตีพิมพ์อีกหลายครั้งโดยหลายสำนักพิมพ์ถือเป็นวรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์เล่มที่ 2โดยแปล
หลังจากไซ่ฮั่น และเก่าแก่ที่สุดในไทย
เรื่องย่อ
เรื่องสามก๊ก
เป็นเรื่องตอนที่แผ่นดินจีนแบ่งแยกออกเป็นสามก๊กใหญ่ๆ นับตั้งแต่สมัยพระเจ้าเลนเต้กษัตริย์ราชวงศ์ฮั่น ครองราชเมื่อ
พ.ศ. ๗๑๑ พระเจ้าเลนเต้เป็นกษัตริย์ที่ อ่อนแอ ไม่สนพระทัยที่จะบริหารบ้านเมือง
มัวแต่แสวงหาความสุขสำราญส่วนพระองค์ ปล่อยให้ ขันทีทั้ง ๑๐ ว่าราชการตามความพอใจ จนขุนนางและประชาชนได้รับความเดือดร้อนไปทั่วพระเจ้าเลนเต้ มีโอรส ๒ พระองค์ ต่างชนนีกัน จึงเป็นเหตุให้เกิดความยุ่งยาก ในการสืบราชสมบัติ ครั้นพระเจ้าเลนเต้สิ้นพระชนม์โอรสองค์ใหญ่
คือ หองจูเปียน ซึ่งขณะนั้นยัง
ทรงพระเยาว์อยู่ ได้ครองราชย์เป็นกษัตริย์องค์ต่อมา โดยมีนางโฮเฮา พระมารดาเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินแต่ในราชสำนักก็ยังวุ่นวายจากพวกขันทีทั้ง
๑๐ อยู่ โฮจิ๋นพี่ชายของนางโฮเฮา
จึงเชิญตั๋งโต๊ะมาช่วยกำจัดพวกขันทีเมื่อเหตุการณ์เรียบร้อยเป็นปกติแล้ว
ตั๋งโต๊ะก็ยึดอำนาจถอดถอนหองจูเปียงออก โดยให้เอาสุราผสมยาพิษกรอกจนสิ้นพระชนม์จากนั้นก็สถาปนาหองจูเหียบขึ้น เป็นกษัตริย์
มีพระนามว่า พระเจ้าเหี้ยนเต้ แล้วตั๋งโต๊ะก็ตั้งตนเป็นพระมหาอุปราช
มีฐานะเป็นบิดาบุญธรรม ของพระเจ้าเหี้ยนเต้ ถืออำนาจบาทใหญ่กระทำการทุจริต
พวกขุนนางทั้งหลายจึงคิดที่จะกำจัด ตั๋งโต๊ะ แต่ก็ไม่สำเร็จ จนอ้องอุ้นได้วางแผนส่งนางเตียวเสี้ยน
ซึ่งเป็นบุตรสาวบุญธรรม ไปเป็น ภรรยาตั๋งโต๊ะให้นางใช้อุบายและมารยาหญิงทำให้ตั๋งโต๊ะผิดใจกับลิโ ผู้เป็นทหารเอก
จนกระทั่งลิโป้ฆ่าตั๋งโต๊ะตายแต่อ้องอุ้นก็ไม่สามารถจัดการบ้านเมืองให้เรียบร้อยได้
ในที่สุด อ้องอุ้นก็ถูกลิฉุยกับกุยกีพรรคพวกของตั๋งโต๊ะ ฆ่า
แล้วลิฉุยกับกุยกีก็บังคับพระเจ้าเหี้ยนเต้ให้อยู่ ใต้อำนาจ มีอำนาจสิทธิ์ขาดในการบริหารบ้านเมืองพระเจ้าเหี้ยนเต้คับแค้นใจมาก
จึงมีรับสั่ง เรียกโจโฉมาช่วยกำจัด ลิฉุย กุยกี และพรรคพวก
โจโฉยึดอำนาจในเมืองหลวงไว้ได้ แล้วกำเริบ ตั้งตนเองเป็นมหาอุปราชควบคุมพระเจ้าเหี้ยนเต้ให้อยู่ใต้อำนาจ
ข่มเหงพวกขุนนางที่สุจริตและเหล่าราษฎร
พระเจ้าเหี้ยนเต้จึงใช้พระโลหิตเขียนหนังสือลับ
ไปขอร้องให้ขุนนางที่จงรักภักดีช่วย กำจัดโจโฉ แต่ถูกโจโฉจับได้
ขุนนางเหล่านั้นก็ถูกฆ่าตายหมด แม้แต่นางฮกเฮาพระมเหสีของ
พระองค์ก็ถูกจับไปฆ่าเช่นกันพวกเจ้าเมืองต่างๆ ได้ทราบพฤติการณ์อันเลวทรามของโจโฉ
ก็ไม่พอใจคิดจะช่วยเหลือพระเจ้าเหี้ยนเต้
จึงพากันกระด้างกระเดื่องขึ้น โจโฉก็ให้จัดกองทัพไป ปราบปราม สงครามจึงเกิดขึ้น
โจโฉสามารถปราบเมืองต่างๆ ได้สำเร็จ แต่ไม่อาจปราบเล่าปี่ เจ้าเมืองเสฉวนได้
และซุนกวนเจ้าเมืองกังตั๋งได้เล่าปี่เป็นเชื้อสายพระราชวงศ์ฮั่นแต่ยากจนอนาถาได้คนมีฝีมือไว้เป็นทหารหลายคนแต่มีกำลังไพร่พลน้อยต้องคอยหลบหนีฝ่ายศัตรูอยู่เสมอ จนกระทั่งได้ขงเบ้งมาเป็น
ที่ปรึกษา จึงสามารถตั้งตนเป็นเจ้าเมืองเสฉวนได้ส่วนซุนกวน
เป็นเจ้าเมืองกังตั๋งโดยการสืบสกุล เป็นคนดีมีศีลธรรม
ปกครองบ้านเมืองด้วยความเป็นธรรม จึงมีคนเคารพนับถือเข้ามาเป็นพวกมากมาย
เมื่อโจโฉตาย โจผีบุตรชายของโจโฉครองตำแหน่งมหาอุปราชแทน แล้วต่อมาก็กบฏ
ปลดพระเจ้าเหี้ยนเต้ออกจากบัลลังก์ แล้วสถาปนาตนเองขึ้นเป็นกษัตริย์
มีพระนามว่าพระเจ้า อ้วนโซ่ ตั้งราชวงศ์ขึ้นใหม่ คือ ราชวงศ์วุย
เล่าปี่ถือว่าตนเองเป็นเชื้อสายราชวงศ์ฮั่น ไม่ยอมรับ พระเจ้าโจผีเป็นกษัตริย์จึงตั้งตัวเองเป็นกษัตริย์สืบราชวงศ์ฮั่นใช้เมืองเสฉวนเป็นราชธานี
ซุนกวนก็ไม่ยอมขึ้นกับพระเจ้าโจผีหรือเล่าปี่ ก็ตั้งตัวเป็นกษัตริย์บ้าง
มีเมืองกังตั๋งเป็น ราชธานีประเทศจีนขณะนั้น จึงแยกเป็น ๓
อาณาจักร หรือเรียกว่า สามก๊กอาณาจักรของเล่าปี่
เรียกว่า "จ๊กก๊ก" อาณาจักรของพระเจ้าซุนกวน เรียกว่า
"ง่อก๊ก"และอาณาจักรของพระเจ้าโจผี เรียกว่า "วุยก๊ก"
ต่อมาเมื่อพระเจ้าเล่าปี่ พระเจ้าซุนกวน และพระเจ้าโจผีสิ้นพระชนม์แล้ว เชื้อสาย
ที่สืบราชสมบัติต่อมาก็อ่อนแอลงสุมาเจียวซึ่งเป็นมหาอุปราชของวุยก๊กสามารถจับตัวพระเจ้าเล่าเสี้ยนมาเป็นเชลยได้
จึงรวมอาณาจักรจ๊กก๊กเข้ากับวุยก๊กได้พอสุมาเจียวตายแล้ว สุมาเอี๋ยน
ผู้เป็นบุตรชายสืบตำแหน่งแทน และได้ชิงราชสมบัติของวุยก๊กจากพระเจ้าโจฮวน
แล้วตั้งตนเอง เป็นกษัตริย์แทน ตั้งราชวงศ์ใหม่ขึ้น เรียกว่า ราชวงศ์จิ๋น
พระเจ้าสุมาเอี๋ยนสามารถปราบพระเจ้า ซุนโฮแห่งง่อก๊กให้ยอมสวามิภักดิ์ได้ แผ่นดินจีนทั้ง
๓ อาณาจักรก็รวมกันเป็นอาณาจักรเดียว เรียกว่า เมืองไต้จิ๋น
สงครามที่ดำเนินมานานก็สงบลงอย่างเด็ดขาด
เรื่องสามก๊ก เป็นเรื่องตอนที่แผ่นดินจีนแบ่งแยกออกเป็นสามก๊กใหญ่ๆ นับตั้งแต่สมัยพระเจ้าเลนเต้กษัตริย์ราชวงศ์ฮั่น ครองราชเมื่อ พ.ศ. ๗๑๑ พระเจ้าเลนเต้เป็นกษัตริย์ที่ อ่อนแอ ไม่สนพระทัยที่จะบริหารบ้านเมือง มัวแต่แสวงหาความสุขสำราญส่วนพระองค์ ปล่อยให้ ขันทีทั้ง ๑๐ ว่าราชการตามความพอใจ จนขุนนางและประชาชนได้รับความเดือดร้อนไปทั่วพระเจ้าเลนเต้ มีโอรส ๒ พระองค์ ต่างชนนีกัน จึงเป็นเหตุให้เกิดความยุ่งยาก ในการสืบราชสมบัติ ครั้นพระเจ้าเลนเต้สิ้นพระชนม์โอรสองค์ใหญ่ คือ หองจูเปียน ซึ่งขณะนั้นยัง ทรงพระเยาว์อยู่ ได้ครองราชย์เป็นกษัตริย์องค์ต่อมา โดยมีนางโฮเฮา พระมารดาเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินแต่ในราชสำนักก็ยังวุ่นวายจากพวกขันทีทั้ง ๑๐ อยู่ โฮจิ๋นพี่ชายของนางโฮเฮา จึงเชิญตั๋งโต๊ะมาช่วยกำจัดพวกขันทีเมื่อเหตุการณ์เรียบร้อยเป็นปกติแล้ว ตั๋งโต๊ะก็ยึดอำนาจถอดถอนหองจูเปียงออก โดยให้เอาสุราผสมยาพิษกรอกจนสิ้นพระชนม์จากนั้นก็สถาปนาหองจูเหียบขึ้น เป็นกษัตริย์ มีพระนามว่า พระเจ้าเหี้ยนเต้ แล้วตั๋งโต๊ะก็ตั้งตนเป็นพระมหาอุปราช มีฐานะเป็นบิดาบุญธรรม ของพระเจ้าเหี้ยนเต้ ถืออำนาจบาทใหญ่กระทำการทุจริต พวกขุนนางทั้งหลายจึงคิดที่จะกำจัด ตั๋งโต๊ะ แต่ก็ไม่สำเร็จ จนอ้องอุ้นได้วางแผนส่งนางเตียวเสี้ยน ซึ่งเป็นบุตรสาวบุญธรรม ไปเป็น ภรรยาตั๋งโต๊ะให้นางใช้อุบายและมารยาหญิงทำให้ตั๋งโต๊ะผิดใจกับลิโ ผู้เป็นทหารเอก จนกระทั่งลิโป้ฆ่าตั๋งโต๊ะตายแต่อ้องอุ้นก็ไม่สามารถจัดการบ้านเมืองให้เรียบร้อยได้ ในที่สุด อ้องอุ้นก็ถูกลิฉุยกับกุยกีพรรคพวกของตั๋งโต๊ะ ฆ่า แล้วลิฉุยกับกุยกีก็บังคับพระเจ้าเหี้ยนเต้ให้อยู่ ใต้อำนาจ มีอำนาจสิทธิ์ขาดในการบริหารบ้านเมืองพระเจ้าเหี้ยนเต้คับแค้นใจมาก จึงมีรับสั่ง เรียกโจโฉมาช่วยกำจัด ลิฉุย กุยกี และพรรคพวก โจโฉยึดอำนาจในเมืองหลวงไว้ได้ แล้วกำเริบ ตั้งตนเองเป็นมหาอุปราชควบคุมพระเจ้าเหี้ยนเต้ให้อยู่ใต้อำนาจ ข่มเหงพวกขุนนางที่สุจริตและเหล่าราษฎร พระเจ้าเหี้ยนเต้จึงใช้พระโลหิตเขียนหนังสือลับ ไปขอร้องให้ขุนนางที่จงรักภักดีช่วย กำจัดโจโฉ แต่ถูกโจโฉจับได้ ขุนนางเหล่านั้นก็ถูกฆ่าตายหมด แม้แต่นางฮกเฮาพระมเหสีของ พระองค์ก็ถูกจับไปฆ่าเช่นกันพวกเจ้าเมืองต่างๆ ได้ทราบพฤติการณ์อันเลวทรามของโจโฉ ก็ไม่พอใจคิดจะช่วยเหลือพระเจ้าเหี้ยนเต้ จึงพากันกระด้างกระเดื่องขึ้น โจโฉก็ให้จัดกองทัพไป ปราบปราม สงครามจึงเกิดขึ้น โจโฉสามารถปราบเมืองต่างๆ ได้สำเร็จ แต่ไม่อาจปราบเล่าปี่ เจ้าเมืองเสฉวนได้ และซุนกวนเจ้าเมืองกังตั๋งได้เล่าปี่เป็นเชื้อสายพระราชวงศ์ฮั่นแต่ยากจนอนาถาได้คนมีฝีมือไว้เป็นทหารหลายคนแต่มีกำลังไพร่พลน้อยต้องคอยหลบหนีฝ่ายศัตรูอยู่เสมอ จนกระทั่งได้ขงเบ้งมาเป็น ที่ปรึกษา จึงสามารถตั้งตนเป็นเจ้าเมืองเสฉวนได้ส่วนซุนกวน เป็นเจ้าเมืองกังตั๋งโดยการสืบสกุล เป็นคนดีมีศีลธรรม ปกครองบ้านเมืองด้วยความเป็นธรรม จึงมีคนเคารพนับถือเข้ามาเป็นพวกมากมาย เมื่อโจโฉตาย โจผีบุตรชายของโจโฉครองตำแหน่งมหาอุปราชแทน แล้วต่อมาก็กบฏ ปลดพระเจ้าเหี้ยนเต้ออกจากบัลลังก์ แล้วสถาปนาตนเองขึ้นเป็นกษัตริย์ มีพระนามว่าพระเจ้า อ้วนโซ่ ตั้งราชวงศ์ขึ้นใหม่ คือ ราชวงศ์วุย เล่าปี่ถือว่าตนเองเป็นเชื้อสายราชวงศ์ฮั่น ไม่ยอมรับ พระเจ้าโจผีเป็นกษัตริย์จึงตั้งตัวเองเป็นกษัตริย์สืบราชวงศ์ฮั่นใช้เมืองเสฉวนเป็นราชธานี ซุนกวนก็ไม่ยอมขึ้นกับพระเจ้าโจผีหรือเล่าปี่ ก็ตั้งตัวเป็นกษัตริย์บ้าง มีเมืองกังตั๋งเป็น ราชธานีประเทศจีนขณะนั้น จึงแยกเป็น ๓ อาณาจักร หรือเรียกว่า สามก๊กอาณาจักรของเล่าปี่ เรียกว่า "จ๊กก๊ก" อาณาจักรของพระเจ้าซุนกวน เรียกว่า "ง่อก๊ก"และอาณาจักรของพระเจ้าโจผี เรียกว่า "วุยก๊ก" ต่อมาเมื่อพระเจ้าเล่าปี่ พระเจ้าซุนกวน และพระเจ้าโจผีสิ้นพระชนม์แล้ว เชื้อสาย ที่สืบราชสมบัติต่อมาก็อ่อนแอลงสุมาเจียวซึ่งเป็นมหาอุปราชของวุยก๊กสามารถจับตัวพระเจ้าเล่าเสี้ยนมาเป็นเชลยได้ จึงรวมอาณาจักรจ๊กก๊กเข้ากับวุยก๊กได้พอสุมาเจียวตายแล้ว สุมาเอี๋ยน ผู้เป็นบุตรชายสืบตำแหน่งแทน และได้ชิงราชสมบัติของวุยก๊กจากพระเจ้าโจฮวน แล้วตั้งตนเอง เป็นกษัตริย์แทน ตั้งราชวงศ์ใหม่ขึ้น เรียกว่า ราชวงศ์จิ๋น พระเจ้าสุมาเอี๋ยนสามารถปราบพระเจ้า ซุนโฮแห่งง่อก๊กให้ยอมสวามิภักดิ์ได้ แผ่นดินจีนทั้ง ๓ อาณาจักรก็รวมกันเป็นอาณาจักรเดียว เรียกว่า เมืองไต้จิ๋น สงครามที่ดำเนินมานานก็สงบลงอย่างเด็ดขาด